ขูดหินปูนและเกลารากฟัน

ขูดหินปูนและเกลารากฟัน

การขูดหินปูนเป็นวิธีการทางทันตกรรมที่ช่วยขจัดคราบหินปูนและแบคทีเรียบนผิวฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ กลิ่นปาก มีคราบฟัน และ โรคเหงือก สามารถนำไปสู่สาเหตุโรคทางทันตกรรมอื่นๆ ดังนั้นการขูดหินปูนจึงส่วนหนึ่งของการรักษาทางทันตกรรมที่มีความสำคัญมาก ทันตแพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้ขูดหินปูนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง

คราบหินปูน ที่ติดอยู่ที่ฟันของ เกิดจากคราบจุลินทรีย์ หรือเศษอาหารที่สะสมอยู่ตามซอกฟันเนื่องจากเป็นบริเวณที่ทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง คราบเหล่านี้จะจับกับเชื้อโรค กระทั่งตกตะกอนกลายเป็นของแข็งเกาะอยู่บนผิวฟัน และตามซอกฟัน เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาด้านสุขภาพเหงือกและฟันมากมาย

​การขูดหินปูน คืออะไร?

การขูดหินปูนคือ การขจัดหินปูนออกจากช่องปากโดยทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือสำหรับขูดหินปูนโดยเฉพาะ มีขั้นตอนดังนี้

  • ทันตแพทย์การตรวจวินิจฉัย ว่ามีปริมาณหินปูนมากน้อยเพียงใด มีฟันผุ หรือปัญหาทางช่องปากอื่นๆ หรือไม่ เพื่อประเมินการรักษา
  • ขูดหินปูน และทำความสะอาด ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือที่มีคลื่นความถี่สูงขจัดคราบหินปูนที่เกาะบนผิวฟัน คอฟัน ซอกฟัน และบริเวณใต้เหงือกให้หลุดออก หลังจากนั้นจึงใช้อุปกรณ์ขูดหินปูนชิ้นเล็ก เพื่อขจัดคราบหินปูนโดยความละเอียดอีกรอบ
  • ขัดฟัน ทันตแพทย์จะขัดพื้นผิวฟันให้เรียบเนียน ซึ่งนอกจากจะสามารถช่วยให้ฟันดูมีความสวยเงางามเพิ่มมากขึ้นแล้วนั้น ยังช่วยให้คราบอาหาร แบคทีเรียและหินปูน สามารถเกาะติดได้ยากขึ้นอีกด้วย จึงเป็นการช่วยลดการเกิดปัญหาทางทันตกรรมได้อย่างง่ายๆ อีกทางหนึ่ง
  • เคลือบฟลูออไรด์ หลังการขูดหินปูนและขัดฟัน เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ


ขูดหินปูน ใช้เวลาทำนานไหม

การขูดหินปูนปกติจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณหินปูน และการเรียงตัวของฟันของแต่ละท่าน


​ขูดหินปูน ฟันขาวขึ้นไหม

การขูดหินปูนช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้ เนื่องจากการขูดหินปูนจะช่วยขจัดคราบหินปูน คราบพลัค จุลินทรีย์ คราบอาหารและเครื่องดื่มที่ติดบนผิวฟันเป็นเวลานานๆ ซึ่งคราบเหล่านี้ไม่สามารถหลุดออกด้วยการแปรงฟันปกติได้ ทันตแพทย์จะต้องใช้เครื่องขูดหินปูนที่มีคลื่นความถี่สูง ขจัดคราบเหล่านี้ให้หลุดออกมา

และสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ หรือชอบดื่มชา กาแฟ เป็นชีวิตจิตใจ เราแนะนำให้ทำ Airflow (นวัตกรรมทางทันตกรรมที่ใช้พลังงานของ น้ำ ลม และผงขัดอณูเล็ก) เพื่อขจัดคราบสี และคราบฝังลึกบนผิวฟันที่ติดมาจากเครื่องดื่ม/บุหรี่


การเกลารากฟัน

การเกลารากฟันและขูดหินปูน เป็นการขจัดคราบพลัค หรือคราบหินปูนออกจากบริเวณฟัน และใต้รอยต่อเหงือก โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เป็นวิธีการเบื้องต้นในรักษาโรคเหงือกอักเสบและโรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบ นอกจากจะช่วยรักษาการอักเสบของเหงือกแล้ว ยังช่วยรักษาสุขภาพฟันอื่นๆได้อีกด้วย  


การเกลารากฟัน (Root Planing) คือ การขจัดคราบพลัค คราบหินปูน และจุลินทรีย์ ที่สะสมที่ลึกลงไปที่ผิวรากฟันด้านล่าง และเนื้อเยื่ออักเสบที่อยู่ใต้เหงือกลึก ส่วนใหญ่จะต้องเริ่มต้นขูดหินปูนด้านบน ๆ ให้หมดก่อน หลังจากนั้นก็จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อใช้ในการขูดหินปูนที่หลงเหลือออก และเกลารากฟันใต้เหงือก การเกลารากฟันโดยส่วนใหญ่ต้องทำร่วมกับการฉีดยาชาด้วย (เพราะจะเจ็บมาก) นอกจากการเกลารากฟันจะรักษาการอักเสบของเหงือกแล้ว ยังช่วยรักษาอวัยวะปริทันต์อื่น ๆ ด้วย เช่น เคลือบรากฟัน (Cementum) เอ็นยึดปริทันต์ (Periodontal Ligament) และกระดูกเบ้าฟัน (Socket)


ขั้นตอนการเกลารากฟัน

  • จะทำการถ่าย X-ray ฟัน เพื่อประเมินดูระดับความรุนแรงของการเกิดโรค
  • ทำความสะอาดช่องปาก และฟันในเบื้องต้น ด้วยการขูดหินปูน เพื่อกำจัดหินปูน และคราบจุลินทรีย์ที่อยู่บนฟัน และบริเวณขอบเหงือก
  • การเกลารากฟันนั้นอาจจะต้องฉีดยาชา และขูดทีละส่วนหรือทีละครึ่งปาก เป็นการรักษาที่ใช้ความละเอียด ไม่สามารถทำการรักษาให้เสร็จได้ภายในครั้งเดียว
  • ในกรณีที่เป็นโรคปริทันต์ชนิดรุนแรงต้องทำการผ่าตัดเปิดเหงือก เพื่อทำการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ที่ทำการรักษาด้วย
  • หลังจากทำการรักษาด้วยวิธีการเกลารากฟันเสร็จ จะต้องมีการติดตามผลการรักษาอย่างเป็นประจำว่ามีสุขภาพช่องปาก เหงือกดีขึ้นหรือไม่


การดูแลรักษาหลังเกลารากฟัน

  1. หลังจากเกลารากฟัน ในผู้ป่วยบางรายอาจจะมีอาการเสียวฟันจากการเกลารากฟัน แนะนำให้ใช้ยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน
  2. รักษาความสะอาดช่องปาก และฟันอย่างสม่ำเสมอ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปาก เพื่อลดการเกิดหินปูน
  3. หลังจากการรักษาสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ควรทานอาหารอ่อน ๆ รสไม่จัด ไม่ร้อนจนเกินไป
  4. นัดตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน อย่างน้อย 6 เดือนครั้ง


ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดจากการเกลาฟัน

  • อาการเสียวฟันอาจพบได้หลังการรักษาการเกลารากฟัน และจะหายไปเอง หรือผู้ป่วยอาจจะใช้ยาสีฟันที่ช่วยบรรเทาอาการเสียวฟันก็ได้เช่นกัน
  • หลังการเกลารากฟันอาจจะมีอาการเลือดซึมในช่วงวันแรก แนะนำให้กัดผ้าก๊อซ และบ้วนน้ำเกลือ
  • มีความรู้สึกว่าฟันโยกหลังจากการเกลารากฟันใหม่ ๆ แต่ไม่ต้องกังวล หลังจากนั้นจะรู้สึกว่าฟันค่อย ๆ แน่นขึ้น


การขูดหินปูน กับ เกลารากฟัน ต่างกันอย่างไร ?

ขูดหินปูน (Scaling)

การขูดหินปูน เป็นการกำจัดหินปูนที่สะสมอยู่เหนือเหงือก และใต้เหงือก การขูดหินปูนนั้นจะใช้เครื่องขูดหินปูน โดยปกติการขูดหินปูนจะไม่มีการใช้ยาชา เพราะไม่ได้เป็นหัตถการที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด แต่จะมีเพียงอาการเสียวฟัน และเจ็บบริเวณเหงือกเล็กน้อยเท่านั้น ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน และสามารถรักษาเสร็จได้ภายในครั้งเดียว


​เกลารากฟัน (Root Planing)

การเกลารากฟัน เป็นการกำจัดหินปูนที่อยู่บริเวณผิวรากฟัน และใต้เหงือกลึก โดยการเกลารากฟันจะต้องทำการรักษามากกว่า 1 ครั้ง และต้องคอยติดตามอาการของผู้ป่วยว่าดูแลทำความสะอาดได้ถูกต้องหรือไม่ อาการเป็นอย่างไรบ้างหลังจากรักษาด้วยวิธีการเกลารากฟัน จึงทำให้การรักษาด้วยวิธีการเกลารากฟันจะมีราคาที่สูงกว่าการรักษาด้วยวิธีการขูดหินปูน